เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 16. สารีปุตตสุตตนิทเทส
ว่าด้วยธุลี 5 อย่าง
คำว่า ลำดับ ในคำว่า ลำดับต่อไป ... คือธุลี 5 อย่างในโลก เป็นบทสนธิ
เป็นคำเชื่อมบท เป็นคำที่ทำบทให้บริบูรณ์ เป็นความสัมพันธ์แห่งอักษร เป็นความ
สละสลวยแห่งพยัญชนะ คำว่า ลำดับ นี้ เป็นคำเชื่อมบทหน้ากับบทหลังเข้าด้วยกัน
คำว่า คือธุลี 5 อย่าง ได้แก่
1. ธุลีที่เกิดจากรูป 2. ธุลีที่เกิดจากเสียง
3. ธุลีที่เกิดจากกลิ่น 4. ธุลีที่เกิดจากรส
5. ธุลีที่เกิดจากโผฏฐัพพะ
อีกนัยหนึ่ง (ได้แก่ธุลีที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า)
ราคะ เราเรียกว่า ธุลี
เราหาเรียกละอองว่า เป็นธุลีไม่
คำว่า ธุลีนี้ เป็นชื่อของราคะ
บัณฑิตเหล่านั้นละธุลีนี้แล้ว
ย่อมอยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลีได้
โทสะ เราเรียกว่า ธุลี
เราหาเรียกละอองว่า เป็นธุลีไม่
คำว่า ธุลีนี้ เป็นชื่อของโทสะ
บัณฑิตเหล่านั้นละธุลีนี้แล้ว
ย่อมอยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลีได้
โมหะ เราเรียกว่า ธุลี
เราหาเรียกละอองว่า เป็นธุลีไม่
คำว่า ธุลีนี้ เป็นชื่อของโมหะ
บัณฑิตเหล่านั้นละธุลีนี้แล้ว
ย่อมอยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลีได้1

เชิงอรรถ :
1 ขุ.จู. 30/74/162-163

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :613 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 16. สารีปุตตสุตตนิทเทส
คำว่า ในโลก ได้แก่ ในอบายโลก มนุษยโลก เทวโลก ขันธโลก ธาตุโลก
อายตนโลก รวมความว่า ลำดับต่อไป ... คือธุลี 5 อย่างในโลก
คำว่า ราคะเหล่าใด ในคำว่า ภิกษุพึงเป็นผู้มีสติศึกษาเพื่อกำจัดราคะเหล่าใด
ได้แก่ ราคะในรูป ราคะในเสียง ราคะในกลิ่น ราคะในรส ราคะในโผฏฐัพพะ
คำว่า มีสติ ได้แก่ สติ คือ ความตามระลึกถึง ความระลึกได้เฉพาะหน้า สติ คือ
ความระลึกได้ ความจำได้ ความไม่เลื่อนลอย ความไม่หลงลืม สติ คือ สตินทรีย์
สติพละ สัมมาสติ สติสัมโพชฌงค์ เอกายนมรรค1 นี้ตรัสเรียกว่า สติ
ภิกษุประกอบ ประกอบพร้อม ดำเนินไป ดำเนินไปพร้อม เป็นไป เป็นไปพร้อม
เพียบพร้อมแล้วด้วยสตินี้ ภิกษุนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า ผู้มีสติ
คำว่า พึงศึกษา ได้แก่ สิกขา 3 คือ
1. อธิสีลสิกขา 2. อธิจิตตสิกขา
3. อธิปัญญาสิกขา
อธิสีลสิกขา เป็นอย่างไร ... นี้ชื่อว่าอธิปัญญาสิกขา
คำว่า ภิกษุพึงเป็นผู้มีสติศึกษาเพื่อกำจัดราคะเหล่าใด อธิบายว่า บุคคลผู้มี
สติพึงศึกษาทั้งอธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขา เพื่อกำจัด คือ
บรรเทา ละ สงบ สลัดทิ้ง ระงับราคะ คือ ราคะในรูป ราคะในเสียง ราคะในกลิ่น
ราคะในรส ราคะในโผฏฐัพพะ
สิกขา 3 นี้ เมื่อภิกษุนึกถึง ชื่อว่าพึงศึกษา เมื่อทราบ ชื่อว่าพึงศึกษา ... เมื่อ
ทำให้แจ้งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง ก็ชื่อว่าพึงศึกษา คือ พึงประพฤติเอื้อเฟื้อ ประพฤติ
เอื้อเฟื้อโดยชอบ สมาทานประพฤติ รวมความว่า ภิกษุพึงเป็นผู้มีสติศึกษาเพื่อ
กำจัดราคะเหล่าใด

เชิงอรรถ :
1 เอกายนมรรค หมายถึงทางเอกที่ต้องละความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ต้องอยู่คนเดียว จากสังสารวัฏ
ไปสู่นิพพาน เหล่าสัตว์ต้องไปด้วยความสงัดที่เรียกว่าวิเวกเท่านั้น อีกอย่างหนึ่ง อริยมรรคมีองค์ 8
อันประเสริฐ ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งปวง ทรงดำเนินไปและชี้บอกทางให้สัตว์ทั้งหลายดำเนิน
ไปตามทางนี้ (ขุ.ม.อ. 3/50)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :614 }